Edcamp คืออะไร?
คาดว่าหลายๆ คนคงยังไม่คุ้นหูกับคำนี้กันนักในวงการการศึกษาประเทศไทย แต่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการศึกษาของอเมริกาวันนี้จะพามารู้จักกับ Edcamp กันค่ะ :)
edcamp.org เว็บไซต์หลักของ edcamp ให้คำจำกัดความไว้ดังนี้ค่ะ
"An organic, participant-driven professional learning experience.
A community created by educators, for educators.
The leading edge of professional development in education."นอกจากนี้ 1 ในบทความจาก edotopia ให้ความหมายของ edcamp ไว้อย่างน่าฟังว่า
"... Open opportunities for educators to collaborate and solve problems."แปลเป็นไทย ตามประสบการณ์ของผู้เขียน edcamp คือ
"รูปแบบหนึ่งของการประชุมวิชาการ ที่มีความเป็นกันเองมากๆ ระหว่างครูด้วยกันเอง ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อแชร์ประสบการณ์การสอน การแก้ปัญหาในชั้นเรียน หรือตามหาไอเดียเพื่อแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น"
edcamp = Educational Camp = ค่ายทางการศึกษา
ส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนมองว่า รูปแบบคล้ายงานประชุมวิชาการ หรือ conference มากกว่า เพียงแต่ฝรั่ง เรื่องอารมณ์ ความรู้สึก ต้องมาก่อนค่ะ เขาต้องการแสดงให้เห็นว่า งานนี้ "เป็นกันเอง" การใช้คำว่า Camp จึงตรงกับความรู้สึกของงานที่ออกมามากกว่านั่นเองค่ะ :)
แต่เดี๋ยวก่อนนะคะ!
ที่บอกว่าคล้าย Conference ไม่ได้แปลว่า "เหมือน" นะคะ
คล้ายกันบ้างที่ Concept ของงาน กว้างๆ
เป็นต้นว่า... มีกลุ่มผู้จัดงาน, มีการแบ่ง Section, ในช่วงเวลาหนึ่ง มีหลาย Section เกิดขึ้นพร้อมกัน
แต่หัวใจหลักที่ทำให้รูปแบบของ edcamp น่าสนใจ อยู่ที่ "ความสด" ค่ะ เคยมีวิชาการงานไหนมั้ยคะ ที่ No Schedule & No Script
ไม่มีกำหนดการ ไม่มีการเตรียมหัวข้อในแต่ละ Session มาก่อน
หลายคนอ่านถึงตรงนี้ คงตั้งคำถามต่อว่า "อ้าว แล้วงานจะจัดกันยังไง?" มีเฉลยค่ะ
ขอแปลสรุป จากบทความของ edutopia มาเฉลยให้ฟังนะคะ
1. Free ฟรีเสมอ และจะฟรีต่อไปค่ะ เหตุผลที่งานนี้ต้อง "ฟรี" ก็เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ครูทุกคน สามารถร่วมงานนี้ได้ค่ะ
| และมักจะมีอาหารฟรีที่ edcamp ;) |
3. Hosted by any organization or individual ใครๆ ก็จัด edcamp ได้ค่ะ ไม่ว่าคุณจะทำในนามองค์กร หรือส่วนบุคคล หรือกลุ่มครูด้วยกัน
4. Made up of sessions on the day of the event ข้อนี้สำคัญมากค่ะ! Sessions ใน edcamp นั้น เค้าเซ็ทกันสดๆ เช้าวันงานนั่นเองค่ะ โดยหลังจากลงทะเบียนเข้างาน ทุกคนที่มาร่วมงานก็จะมารวมตัวกัน เพื่อเสนอไอเดียว่า ใครอยากแชร์อะไร ใครอยากรู้อะไร ใครมีปัญหาอะไร ทุกคนที่มาร่วมงาน สามารถเสนอหัวข้อได้ ไม่ว่าจะคนนั้นหรือพูดหัวข้อนั้นเอง หรือเสนอเพื่อหาแนวร่วมไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน แปลกใช่มั้ยล่ะคะ? แต่นี่คือหัวใจหลัก ที่ตอบโจทย์ว่า ถ้าคนที่มาร่วมงาน อยากได้อะไรกลับไป เขาจะได้ความรู้นั้นแน่นอนค่ะ
| บรรยากาศขณะที่กำลัง Set Sessions กันค่ะ |
5. Everyone can be presenter อย่างที่บอกไปแล้วค่ะ ถ้าผู้เขียนเองมีไอเดียดีๆ ที่ใช้แล้วดีในห้องเรียน อยากแบ่งปันกับครูคนอื่น ผู้เขียนสามารถเสนอ Session ของตนเองขึ้นมาได้ เราไปในฐานะผู้ร่วมงาน และเราสามารถเป็นวิทยากรได้ เจ๋งใช่มั้ยคะ :)
| บรรยากาศใน Session ค่ะ จะเห็นว่าไม่เป็นทางการเลย เป็นกันเองมาก |
6. 'Law of two feet' which encourages participants to find a session that meets their needs งาน edcamp นี้เค้าใช้กฎ "สองเท้า" กันค่ะ พอกำหนดการของ session ต่างๆ ถูกเซ็ทขึ้นแล้ว เป็นสิทธิ์ของเราล่ะค่ะ ว่าจะเลือกเข้าไปฟังหัวข้อไหน ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ ถ้าเข้าไปแล้ว หัวข้อนั้นไม่ตรงกับความต้องการของเรา สามารถเดินออกได้ตลอดเวลา เพื่อไปเข้าอีก Session หนึ่ง หรือรอรอบ session ถัดไปได้ทันทีเลยค่ะ ไม่ต้องเสียเวลา ทนนั่งฟังสิ่งที่ไม่สนใจ กฎนี้ตั้งมา เพื่อป้องกัน "การเกรงใจ" ค่ะ
น่าสนุกมั้ยคะ?
เล่ามาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะบอกว่า เอ๊ะ... นั่นเค้าทำกันในอเมริกา ประเทศอื่นจะทำได้เหรอ?
ได้แน่นอนค่ะ มีหลักฐานมายืนยันว่า edcamp เกิดขึ้นทั่วสหรัฐอเมริกา และทั่วโลกค่ะ
เพื่อนบ้านเรา เวียดนาม เค้าก็ทำ edcamp ครั้งแรกกันไปแล้ว เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เองค่ะ
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า edcamp จะดีแค่ไหน มันก็เป็นได้แค่ตัวหนังสือที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ของผู้เขียน หากมันไม่เกิดขึ้นจริง...
เรียนรู้เพิ่มเติมที่ edcamp Foundation
น่าสนุกมั้ยคะ?
เล่ามาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะบอกว่า เอ๊ะ... นั่นเค้าทำกันในอเมริกา ประเทศอื่นจะทำได้เหรอ?
ได้แน่นอนค่ะ มีหลักฐานมายืนยันว่า edcamp เกิดขึ้นทั่วสหรัฐอเมริกา และทั่วโลกค่ะ
เพื่อนบ้านเรา เวียดนาม เค้าก็ทำ edcamp ครั้งแรกกันไปแล้ว เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เองค่ะ
สุดท้าย หลายคนอาจสงสัยแล้ว edcamp ให้อะไร?
ผู้เขียนตอบได้เลยว่า ให้เราได้เรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์การสอน ร่วมกันค่ะ
เรามีปัญหาเดียวกัน แทนที่เราต้องไปลองผิดลองถูกด้วยกับนักเรียน โดยไม่รู้เลยว่า จะแก้ปัญหานั้นได้มั้ย จะดีกว่ามั้ยถ้าเราจะ "เรียนรู้" ประสบการณ์การแก้ปัญหาลักษณะเดียวกัน จากครูคนอื่นที่แก้ไขได้แล้ว ว่าเค้าทำยังไงแต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า edcamp จะดีแค่ไหน มันก็เป็นได้แค่ตัวหนังสือที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ของผู้เขียน หากมันไม่เกิดขึ้นจริง...
เรียนรู้เพิ่มเติมที่ edcamp Foundation


Golden Nugget Casino, Reno Hotels - MapyRO
ReplyDeleteGolden Nugget Casino, Reno Hotels 강원도 출장마사지 - See detailed driving directions to Golden 남원 출장마사지 Nugget Casino, 파주 출장안마 Golden Nugget 제천 출장마사지 Casino, Reno Hotels, Reno 남양주 출장샵 Hotels, Reno Hotels,